“ชลบุรี# เม้ง” นายกเล็ก 3 สมัย ชูนโยบาย “คนสัตหีบเลิกจน สร้างคน สร้างรายได้”

“ชลบุรี# เม้ง” นายกเล็ก 3 สมัย ชูนโยบาย “คนสัตหีบเลิกจน สร้างคน สร้างรายได้”

 


ชาวสัตหีบเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ คนแบบนี้ที่สังคมกำลังต้องการ “ณรงค์ บุญบรรเจิดศรี” หรือ เม้ง นายกเล็ก 3 สมัย ทีมสัตหีบยุคใหม่ ชูนโยบาย “คนสัตหีบเลิกจน สร้างคน สร้างรายได้” ชัดเจน แจ่มแจ้ง ตรงใจ ปิดประตูโยนหินถามทาง มุ่งเป้าพัฒนาคนสูงวัยเล่น Line., Facebook , Instagram ,Twitter เพื่อการค้าขาย รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC ยืนยันการเลือกตั้งคะแนนทุกเสียงมีคุณค่า ต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ซื้อสิทธิ์ ขายเสียง


ช่วงรวมพลคนหาเสียงอย่างเข้มข้นขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน หมู่บ้าน ซอยต่าง ๆ จะเห็นรถประกาศ เห็นผู้สมัครเลือกตั้งทั้ง เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก็ไม่ได้แตกต่างกับท้องที่อื่น ๆ ต่อเมื่อ นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี หรือ เม้ง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ 3 สมัยติดต่อกัน หัวหน้าทีม “สัตหีบยุคใหม่” ได้พาผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสัตหีบทั้ง 3 เขต ออกหาเสียง พบปะประชาชน เพื่อแนะนำตัวเอง และสมาชิกทุกคน พร้อมชูนโยบายที่ทำให้ประชาชนทึ่งอย่างมากก็คือ “คนสัตหีบเลิกจน สร้างคน สร้างรายได้” แต่ก็มีคนย้อนถาม เพื่อหาคำตอบว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถทำให้คนสัตหีบเลิกจนได้


นายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี หรือ เม้ง บอกว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ได้รับความเดือดร้อนแบบแสนสาหัส วิถีชีวิต วิถีสังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การซื้อ- ขายสินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค เกือบทุกชนิด หันมาใช้โทรศัพท์สั่งสินค้าทุกชนิด พึ่งระบบการขนส่งที่รวดเร็ว ทำให้วิถีพ่อค้า แม่ค้า ชายปลีก ขายส่ง หรือขายแบบวิถีชุมชน ที่ยังด้อยโอกาส ยังตามไม่เท่าทันเทคโนโลยี ไม่เรียนรู้เพิ่มเติม ต้องพบกับปัญหาความเดือดร้อน ขายสินค้าไม่ได้ “กลุ่มสัตหีบยุคใหม่” ได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอด จึงขอยืนยันว่า ชาวสัตหีบจะต้องเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ อย่างแน่นอน และสอดคล้องกับนโยบายที่ให้ไว้ว่า“คนสัตหีบเลิกจน”เพียงอย่าประมาท อย่าการ์ดตก ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองสัตหีบ ร่วมกับ กองทัพเรือ ชุมชน สานสามัคคีกัน ในที่สุดก็ผ่านพ้นวิกฤติมาได้ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี


การชูนโยบาย “คนสัตหีบเลิกจน” ไม่ใช่โยนหินถามทาง ให้ความหวัง และการหาเสียงแบบขอทางไปที เพราะได้เริ่มต้น ปูพื้นฐาน ดำเนินโครงการ “โรงเรียนวุฒิปัญญาภิวัฒน์”ให้ความรู้ผู้สูงอายุ ให้รู้เท่าทัน ขับเคลื่อน พัฒนาสู่โลกยุคใหม่ ในเรื่องของไอที ก็คือการทำธุรกิจ ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว การขายสินค้าช่องทาง Line., Facebook , Instagram ,Twitter สอนภาษาอังกฤษ การพูด การสนทนา ให้ผู้ฟังประทับใจ แนะนำแหล่งท่องเที่ยว ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เส้นทางเดินทัพ พักทัพ ทั้งไปและกลับ ของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เชื่อมโยงกับค่ายทหารต่าง ๆ ในพื้นที่สัตหีบ ล้วนแล้วเป็น Story ที่น่าสนใจ ล้วนแล้วเป็น อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของเมืองสัตหีบมายาวนาน นี่คือบางส่วนเท่านั้น ที่สามารถสร้างคน สร้างรายได้ให้กับชาวสัตหีบ สอดรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC อย่างแน่นอน


นายณรงค์ ยังกล่าวอีกว่า แผนการพัฒนาเมืองสัตหีบ ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างเท่าทัน และเท่าเทียมนั้น ถ้าประชาชนให้โอกาส ให้ความไว้วางใจเข้าไปบริหารเทศบาลเมืองสัตหีบ ในโอกาสแรกจะต้องดำเนินการจัดระเบียบเรื่องพื้นที่การค้าให้อยู่ในขอบเขต และมีข้อจำกัดให้มากขึ้น เพื่อรักษา พลิกฟื้น สนับสนุนวิถีชีวิต วิถีชุมชน การค้าขายในตลาดสัตหีบ ที่มีประวัติยาวนานนับ 100 ปี ตลอดจนการสร้างแลนด์มาร์คใหม่ทางด้านชายทะเล ดึงดูดนักท่องเที่ยว แล้วกำหนดเส้นทางให้เชื่อมโยงกัน โดยประชาชนมีส่วนร่วม เอื้อประโยชน์ต่อกัน สร้างความมั่นใจให้กับผู้มาเยือนทั้งภาคกลางวัน(ตลาดสด) และกลางคืน(ตลาดโต้รุ่ง) เช่น เรื่องของความปลอดภัย สินค้าราคาถูก อาหารมีคุณภาพ สะอาด ถูกหลักอนามัย ก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับคืนสู่วิถีตลาดเก่าให้มีชีวิต การค้าปลีก ค้าส่ง การขนส่งให้กลับมาดีกว่าเดิม


ท้ายสุดยังได้กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนจงมั่นใจ ผู้สมัครทั้ง 3 เขต ว่าเป็นผู้เสียสละ มีผลงานประจักษ์ต่อสายตาประชาชนมาแล้ว จะสามารถเป็นตัวแทนของท่านในการนำปัญหาทั้งหมดในท้องถิ่นมาช่วยกันพิจารณาแก้ไขในทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชน การให้ความรู้ให้เท่าทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ คนสัตหีบทุกเพศ ทุกวัย จะต้องทันสมัย ไม่ตกเทรน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนนโยบาย “คนสัตหีบเลิกจน”ได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

พัชรพล – ณัฐภูมินทร์ ปานรักษ์ รายงานจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

Related posts